กรรมจากการหนีออกจากงานและไม่บอกกล่าว
- songrad banyen
- Jun 8, 2018
- 1 min read
Updated: Jun 11, 2018
เรื่องนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ของผู้ไม่ประสงค์จะเอ่ยนามท่านหนึ่ง เล่าให้ดิฉันฟัง และยินดีที่จะให้นำเรื่องราวมาลงเป็นธรรมทานให้ผู้อื่น ดังนี้
"เรื่องกฎแห่งกรรม เรื่องที่ 1 : ผลกรรมจากการที่ออกจากงานโดยไม่บอกกล่าว
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงเมื่อ หลายปีมาแล้ว เรื่องตั้งแต่ปี 10 ปีก่อน ซึ่งยังมีผลกรรมมาถึงจนปัจจุบันนี้ (ปี 2560)
ขออุทิศผลบุญ ที่เจ้าของเรื่องได้ให้ธรรมทานนี้ ส่งผลให้ผู้ประกอบการทั้งหลาย รวมถึงเจ้านาย และลูกน้องที่เกี่ยวข้องกับเจ้าของเรื่อง ให้ได้อโหสิกรรม ให้กับเจ้าของเรื่อง และอุทิศเพื่อเป็นประโยชน์กับมนุษย์เงินเดือนทั้งหลาย ว่า การทำสัมมาอาชีพด้วยความดี ประพฤติดี จะทำให้ชีวิตเกิดผลไปในทางที่ดีเสมอไม่ว่าช้าหรือเร็ว แต่เมื่อไรก็ตาม เราประพฤติชั่ว ทำให้ผู้ประกอบการเดือดร้อนไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม ผลจะเกิดกับท่านอยู่เสมอ และจะมีผลยาวนานหรือรุนแรงมากกว่าที่ท่านคาดถึง
------------------------------------------------------------
สิ่งที่ทำ: เขาออกจากงานโดยไม่บอกกล่าว ทั้งหมด 3 ที่ ทำแต่ละที่ไม่เกิน 3 เดือน ก็ออก และไม่บอกกล่าวใคร ออกเฉยๆเลย ทำให้ผู้ประกอบการเดือดร้อนเป็นอย่างมาก
ผลกรรมที่รับทันที ขั้นที่ 1: ตัวเขาเองก็เดือดร้อน ต้องเปลี่ยนตัวตน ต้องหนีหน้าใครๆ จะไปเดินห้างที่เก่าๆ ที่เคยไปกับเพื่อนร่วมงานก็ไม่ได้ เพราะกลัวจะเจอคนรู้จัก ชีวิตหวาดระแวงตลอด จากปี 2552-53 ในระยะที่เขาทำกรรมเหล่านั้นไว้ เขาต้องหลบซ่อนตัวเองอยู่ตลอดเวลา
-----------------------------------------------------------
ช่วงที่ 2: ได้ทำงานที่ใหม่ สุดท้าย เจ้าของเรื่อง ก็หาตัวตนของตัวเองเจอซักที เป็นบริษัทต่างชาติ ที่ค่อนข้างโหด และมีการแข่งขันสูง มีโปรเจคใหญ่ๆเข้ามาให้ทำตลอด และเป็นการที่เหนื่อยมาก สุดท้ายทำมา ปีกว่าๆ ก็ออก แต่คราวนี้ออก จากสวยงามคือ พยายามชดใช้สิ่งที่ทำไว้ โดยการเปิดสอนเด็กรุ่นใหม่ ให้เข้าใจวิธีการทำงาน และสอนเทคนิกการทำงานโดยให้รุ่นพี่ที่เก่งๆ เอาเวลาหลังเลิกงานมาสอนเด็กๆ รุ่นใหม่ต่อไป และก็ออกจากงานและก็ต้องหางานระยะหนึ่ง
-----------------------------------------------------------
ช่วงที่ 3 : เมื่อได้งานที่ดี ก็ได้รับผลกรรมในการทำงาน
ผลกรรม ขั้นที่ 2: ขัดกับหัวหน้างาน และโดนเข้าใจผิดเรื่องการเมืองในที่ทำงานเป็นประจำ เหมือนโดนเอี่ยวด้วยตลอด
ผลกรรม ขั้นที่ 3: มีลูกน้อง ลูกน้องก็ทำงานเสีย วานให้ใครช่วงงาน ก็ทำงานผิดพลาด จนต้องใช้เวลาแก้ไขนาน และลูกน้องทุกคนหัวแข็งและสอนไม่ได้ (เพราะเคยทำกับเขาไว้แบบนี้ ก็ได้ทำกรรมแบบนี้)
ผลกรรม ขั้นที่ 4: จะหางานใหม่ จะออกจากที่ทำงานเดิม ก็ทำไม่ได้ ไม่รู้ชีวิตตัวเองว่าจะทำมาหากินอะไร จะทำงานประเภทไหน แม้จะทำบริษัทของตัวเอง ก็ชีวิตเหมือนตีบตัน คิดจะค้าขายจะขายอะไรก็คิดไม่ออก จะรับจ้างอะไร ก็ทำไม่สำเร็จ
สรุป
ทั้งหมดทั้งมวล เกิดจากผลกรรมที่เคยทำเขาไว้ก่อนหน้านี้ รวมถึง กรรมปัจจุบัน ทีเป็นการกระทำของเจ้าของเรื่องเอง
ดังนั้นฝากถึงเจ้าของเรื่องตรงนี้เลยว่า คุณต้องฮึดสู้และก็หมั่นทำความดีเพื่อชดใช้สิ่งที่ได้ทำไปก่อนหน้านี้ ซึ่งแน่นอนว่า ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ แต่หมั่นสร้างสิ่งดีๆ สร้างผลงานที่มีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นที่ทำงานปัจจุบันที่คุณทำอยู่ และถ้าคุณจะค้าขายหรือทำมาหากินอะไร ก็ขอให้ทำด้วยความสุจริต สร้างสรรค์ทุกอย่างด้วยความตั้งใจจริงและรับผิดชอบอย่างแท้จริง ทาง เพจ "เป็นมนุษย์ผู้พบพระพุทธศาสนา" ขอเป็นกำลังใจให้คุณ และขออนุญาตนำบทความนี้ออกเผยแพร่ เพื่อเป็นธรรมทานให้ผู้อื่น ได้รู้ว่า การที่เราออกจากงานและทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน กิจการงานของเขาเหล่านั้นไม่ต่อเนื่องนั้น ส่งผลให้กับชีวิตของเราอย่างไร เพื่อให้มนุษย์เงินเดือนทั้งหลายละอาย และเกรงกลัวการกระทำความผิด ซึ่งผลของกรรมสมัยนี้ เร็วมาก ซึ่งไม่ถึง 10 ปี ก็เกิดผลแล้ว "
จากข้อมูลเบื่องต้น ตามความเห็นของดิฉัน เห็นว่า กรรมที่ออกจากงานโดยไม่บอกกล่าวนั้น ก็จริงอยู่ที่ทำให้เจ้าของเรื่องมีความเดือดร้อน และกระวนกระวายเรื่องงานอยู่เสมอ รวมถึงทำสิ่งใดก็ไม่สำเร็จ แต่มองในมุมเดียวก็ไม่ถูกต้องนัก สิ่งที่ดิฉันจะแนะนำสำหรับผู้ที่มีเหตุการณ์คล้ายๆกัน คือ "ลาออกจากงาน โดยไม่บอกกล่าว + ชีวิตการงานหรือการทำมาหากินล้มเหลว" ดังนี้
1. ไปขออโหสิกรรม กับที่ทำงานเก่า ถ้าทำได้ เพื่อทำให้อย่างน้อยตัวของเจ้าของเรื่องเอง มีความสบายใจอย่างหนึ่ง แต่ถ้าทำไม่ได้ ก็จะเรื่องราวส่วนตัวที่เคยทำผิดพลาดมาก่อน มาแสดงแก่คนทั้งหลาย เป็นธรรมทานว่า "สิ่งที่ฉันได้เคยทำไปแล้วนี้ เป็นสิ่งที่ผิด และส่งผลจริง ขออย่าให้ผู้อื่นทำบาปลักษณะนี้เลย" (เหมือนอย่างที่กำลังทำอยู่นี่)
2. ทำเหตุ ให้ตรงกับผล หมายความว่า ถ้าคุณต้องการที่จะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน หรืออาชีพ คุณก็ควรทำชีวิตคุณให้ตรงกับทิศทางที่คุณต้องการ อย่ามัวเศร้าหมอง ไปกับสิ่งที่ผ่านไปแล้ว จนเกินพอดี ยกตัวอย่างเช่น
- ถ้าคุณอยากได้งานที่ตรงกับความต้องการ โดยมีปัญหาว่า สมัครงานแล้วไม่มีใครรับ ทางแก้คือ คุณควรสร้างงานนั้นด้วยตัวเอง และยึดการทำความดีเป็นพื้น ทำตัวให้อยู่ในศีล เพื่อสร้างสัมมาอาชีพด้วยตัวเอง
ขออนุโมทนา กับท่านเจ้าของเรื่องด้วยค่ะ
ทรงรัตน์ บานเย็น







Comments