ความว่างจากบริบทของความว่าง (PART 1)
- songrad banyen
- Jun 11, 2018
- 1 min read
ความว่างจากบริบทของความว่าง (PART 1)
ชีวิตคนเราได้รับการเติมเต็มเราคิดว่าได้รับการเติมเต็มแล้ว ได้แสวงหาความสุขทั้งที่ไม่รู้ว่าอะไรคือความสุข เราให้คำนิยามสิ่งต่างๆนานาเพื่อเป็นข้ออ้างที่จะกระทำสิ่งอื่นสิ่งใดหรือแม้กระทั่งเป็นข้ออ้างที่จะไม่กระทำสิ่งอื่นสิ่งใด เราให้เหตุผลทั้งทีมไม่รู้ว่าสิ่งที่เรียกว่าเหตุผลของเรานั้น มันมีเหตุผลหรือไม่มีเหตุผลกันแน่
โลกของเราจริงๆแล้วไม่มีอะไร ไม่มีคุณค่าอะไร เราไปสร้างคุณค่าให้กับสิ่งเหล่านั้นเอง โดยใส่ความเชื่อเข้าไป และยึดมั่นว่าสิ่งที่เราเชื่อนั้น คือสิ่งที่เป็นความจริง เรามักบัญญัติ คำนิยามของคำนิยามของสิ่งต่างๆขึ้นมาเป็นกฎบ้าง เป็นข้อปฏิบัติบ้าง เป็นศาสนาบ้าง เป็นความเชื่อบ้าง หรือแม้แต่คิดเอาเองว่า สิ่งที่เราคิดทั้งหลายนั้น ถูกต้องสมบูรณ์แล้ว โดยมีเหตุผลต่างๆนานามายอมรับความสมบูรณ์แบบเหล่านั้น ไม่ว่าเราจะปฏิบัติผิด หรือเราจะปฏิบัติตัวถูกก็ตาม เราก็จะตีความไปว่าตัวเองได้ทำดีที่สุดแล้วอยู่เสมอ
ก่อนหน้านี้ฉันได้ศึกษาแนวทางในการดำเนินชีวิตที่หลากหลาย เพื่อหาคำตอบ ให้กับตัวเองในหลายอย่างในชีวิต เช่น
- เราสร้างคุณค่าในชีวิตได้อย่างไร?
- ความเชื่อต่างๆที่เราได้สะสม ต่อต่อกันมานั้น เกิดมาได้อย่างไร?
- ทำไมแนวความคิดและการมองเห็นของคนหลากหลายคนจึงเป็นไปในทิศทางที่แตกต่างกัน และสิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร?
- ทำไมหลายคนเมื่อมองเห็นสิ่งเดียวกันก็ตีความที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง มันเกิดขึ้นได้อย่างไร?
ฉันอยากจะเสแสร้งว่าตัวเองเชื่อและมีความเชื่อหลายอย่าง ในตอนนี้ฉันรู้ว่าตัวฉันไม่มีความเชื่อในอะไรเลยสักอย่างเดียว
ฉันเป็นคนเชื่อที่จะทำตามกฎเกณฑ์ เคารพสิ่งที่คนอื่นเคารพ ให้เกียรติในสิ่งที่คนอื่นให้เกียรติและทำสิ่งที่คนอื่นทำต่อๆกันมาและเห็น ว่ามันดี เพราะฉันเข้าใจดีว่าไม่อยากให้คนอื่นสนใจและไม่อยากกลายเป็นตัวประหลาด แต่คุณรู้ไหมทุกครั้งที่ฉันทำอะไรที่ขัดกับตัวเองมันจะรู้สึกเสแสร้งและอึดอัด แต่มันคงไม่แปลกอะไรถ้าคุณจะทำมันมาตลอดชีวิตจนถึงวัยกลางคนจุดหนึ่ง ที่คุณรู้สึกว่า สิ่งที่ผ่านมาเป็นเรื่องไร้สาระที่คุณดำเนินขึ้นและสร้างมันด้วยตัวคุณเอง
ถ้าถามฉันกลับมาว่าในเมื่อฉันไม่มีความเชื่อเรื่องอะไรแล้วจะมานั่งเล่าเกี่ยวกับเรื่องความเชื่อและความศรัทธาไปทำไมในเมื่อฉันไม่มีความเชื่อเรื่องอะไรเลย
คุณไม่จำเป็นต้องได้รับคำตอบนานๆเพราะคุณอาจจะตอบปัญหานี้ในหัวของคุณหลังจากที่อ่านบทความนี้ หรือไม่แน่ในหัวของคุณอาจจะมีคำตอบและตัดสินฉันไปเรียบร้อยแล้ว นั่นก็คือสิทธิ์ของคุณ และสิทธิ์ของฉันในการเขียนหนังสือเล่มนี้ในมุมมองของฉัน ก็เป็นสิทธิ์ในมุมมองของฉันเช่นกัน
เพราะ ตั้งแต่เมื่อเราเกิดมาเป็นมนุษย์แล้วก็ถูกหล่อหลอมและสร้างสรรค์สิ่งหลากหลายตามช่วงเวลาของวัย ในทุกๆขณะที่เรายังมีชีวิตและมีลมหายใจ การรับรู้ที่หลากหลายเข้ามาในสมองของเราในชีวิตประจำวันซึ่งเราอาจจะรู้ตัวบ้างหรือไม่รู้ตัวก็ได้ ข้อใดที่ มีการนำข้อมูลเข้ามาในหัวสมองของเรานั้น แม้กระทั่งในเวลาหลับสมองเราก็มีการเปลี่ยนแปลงและมีการประมวลผลอยู่เสมอ ถ้าคุณนั่งพิจารณาถึงชีวิตของคุณให้ดีคุณจะทำความเข้าใจได้ถึงจุดหนึ่งบาท ไม่มีหลากหลายอย่างในชีวิต ที่ปิดกั้นไม่ให้คุณสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองและใช้ชีวิตในแบบที่คุณต้องการได้ก็คล้ายกับว่าความรู้สึกมันเหมือนติดขัดและขัดแย้งอะไรบางอย่างที่คุณเองก็ไม่สามารถหาคำตอบได้
ทรงรัตน์ บานเย็น







Comments