ชีวิตนี้เป็นของเรา
- songrad banyen
- Jun 11, 2018
- 1 min read

ในชีวิตของคนเราทุกๆวันก็ต้องเจอกับสภาพแวดล้อมที่ "ทำให้เราหลงลืมความต้องการหรือหรือแม้กระทั่งเป้าหมายของตัวเองไป" หลายคนมีเป้าหมายตั้งแต่เด็กๆว่าจะเป็นนั่นเป็นนี่ จะทำนั่นทำนี่ ถ้ามีโอกาส แต่พอโตขึ้นสภาพแวดล้อมและสภาพทางสังคมนั้นๆ ทำให้เราหลงลืมความต้องการและความตั้งใจดังกล่าวไป เปรียบเหมือนเรารายล้อมไปด้วย ปีศาจที่พร้อมจะครอบงำเราได้ทุกเมื่อ สิ่งที่เราสามารถทำได้ในเบื้องต้นคือตะโกนออกไปว่า "ชีวิตนี้เป็นของฉัน !!ใครจะมาแย่งชีวิตไปจากฉันไม่ได้" เพราะชีวิตนี้เป็นของเราจริงๆไม่มีอะไรจะมากำหนดหรือท้าทายความเป็นตัวตนได้ นอกจากตัวเราเอง แต่นี่เป็นแค่อุดมคติเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงสภาพแวดล้อม ที่ล้อมรอบตัวเราทำให้เราได้เบี่ยงเบนความสนใจที่มีมาตั้งแต่เด็กๆ ไปสู่จุดใดซักจุดหนึ่งโดยที่เราเองอาจจะไม่ต้องการด้วยซ้ำ (เช่นฉันเคยฝันว่าอยากจะเป็นอาจารย์ แต่ตอนนี้ก็ยังไม่ได้เป็น แต่ก็แอบหวังว่า จะมีทุนการศึกษาจากบนฟ้า และจะกดดันตัวเองให้เรียนถึงขั้น ด๊อกเตอร์ ก่อนอายุ 50 ก็แล้วกัน)

ถ้าจะมองเห็นให้เป็นแบบรูปธรรมก็คือ หลายคนคงเคยได้ยินว่าเมื่อเราอยู่รายล้อมไปด้วยคนชั่วแล้วเรามักจะหลงผิดคิดชั่วตามไปด้วย (เพราะอาจจะเห็นเป็นตัวอย่างแล้วก็มองว่าเขาทำได้ฉันก็น่าจะทำได้เหมือนกัน เขาหลบหลีกตำรวจได้ เราก็น่าจะลองเลียนแบบเขาดูซิเผื่อจะหนีตำรวจได้เหมือนกัน) ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งนั้นเป็นเรื่องจริงซะส่วนใหญ่เพราะการคบคนชั่วคนพาล ก็ทำให้เราดิ่งไปสู่แนวคิดเดียวกันด้วย ถึงแม้ใจเราไม่ต้องการที่จะเป็นแบบนั้นก็ตาม ซึ่งก็เป็นการยากที่สมองจะฟันฝ่าแนวความคิดไปในทิศทางที่ดีได้แต่ทุกปัญหาก็มีทางออกคำถามอีกคำถามนึงก็คือเมื่อเราอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีแต่คนไม่ดี สิ่งหนึ่งที่เราจะสามารถทำได้คือ 1. หาเป้าหมายในชีวิตของตัวเอง และการถือเป้าหมายให้มั่น คนเราทุกคนเกิดมาใช้ชีวิต และการใช้ชีวิตของแต่ละคนก็ยังมีสไตล์ที่แตกต่างกัน บางคนมองว่าเราควรจะใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุขสนุกกับเพื่อนๆหรือทำสิ่งที่บรรพบุรุษทำต่อๆกันมา แต่บางคนกลับมองว่าเราเรียนจบแล้วเราควรจะทำธุรกิจส่วนตัวมีสิ่งต่างๆเป็นของตัวเอง คนเราทุกคนมีความต้องการที่จะได้บางอย่างเป็นของของตนเป็นในรูปแบบที่ตนต้องการ เป็นไปในลักษณะที่ตนสามารถที่จะควบคุมได้ เพราะคนทุกคนถืออัตตาความเป็นตัวตน การหวงแหนความเป็นตัวเอง เพื่อมีชีวิตเพื่อให้รู้ว่าเรามีชีวิต แม้เราเป็นเด็กตัวเล็กๆเราเกิดมา ก็มีความสามารถในการร้องเสียงดังๆหรือบอกความต้องการของตัวเองว่าหนูหิวนมแล้วนะหนูปวดฉี่หนูหงุดหงิด เพื่อประกาศความต้องการของตนออกมาอยู่ตลอดเวลา เด็กวัยรุ่นหลายคนก็พยายามหาความหลากหลายเพื่อตอบโจทย์ตัวเองให้ได้ว่าอะไรคือสิ่งที่ตัวเองต้องการ ใช่สิ่งที่พ่อแม่บอกให้เราเป็นไหม หรือ เราควรเป็นอย่างที่เราเป็นได้ไหม และก็จะพยายามทดสอบสิ่งที่ค้นพบกับตัวเองอยู่ตลอดเวลา บ้างทำงานหนักขึ้นอ่านหนังสือมากขึ้นพยายามมากขึ้น เพื่อประกาศให้ตัวเองได้รู้ว่าศักยภาพความสามารถที่ตัวเองได้รับมานั้นเพียงพอกับสิ่งที่ตัวเองต้องการหรือยัง แต่สิ่งที่สำคัญในการหาเป้าหมายนี้ก็คือ "การมีศรัทธา ด้วยสติปัญญา รู้ผิดชอบชั่วดี" นี่เป็นสิ่งที่ทำให้เป้าหมายในชีวิตของแต่ละคนมีค่า
2. ยึด ศีล เป็นที่พึ่ง ในการรักษาตน เมื่อบุคคลใด มีศีล เป็นพื้นฐานในชีวิตแล้วจะพบเจอกับความเสื่อมได้น้อย
ศีลข้อที 1 ปาณาติปาตาเวรมณี หมายถึง การละเว้นจากการฆ่าชีวิตสัตว์
ศีลข้อที่ 2 อทินนาทานาเวรมณี หมายถึง การเว้นจากการลักทรัพย์
ศีลข้อที่ 3 กาเมสุมิสฉาจาราเวรมณี หมายถึง การละเว้นจากการประพฤติผิดในกาม
ศีลข้อที่ 4 มุสาวาทาเวรมณี หมายถึง การละเว้นจากการพูดโกหก
ศีลข้อที่ 5 สุราเมรยมัฌชปะมาทัตถานาเวรมณี หมายถึง การละเว้นจากการดื่มสุรา
คนที่มีศีล และประกอบด้วยปัญญา ชีวิตจะปกติสุข อย่างแน่นอน เพราะพวกเขาจะ เลือกคบมิตร และจะไม่พาตัวเองให้ล้มจม แน่นอน
ทรงรัตน์ บานเย็น







Comments