top of page

อย่าเอาความคิดตน ไปตัดสินผู้อื่น

Updated: Jun 11, 2018

เราทุกคนก็ชอบทำตัวเป็นกรรมการตัดสินชีวิตของผู้อื่นเราวิพากษ์วิจารณ์เพราะเราหวาดกลัวในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงเราคิดแทนคนอื่นโดยเอาพื้นหลังความคิดของเราไปวางไว้และสถานการณ์ของคนทั่วไปเรามักจะพูดให้คำแนะนำกับคนอื่นว่า "ฉันไม่รู้ว่า...(ทำไมเธอทำไม่ได้)....แต่ถ้าเป็นฉันจะทำ.....(ตามจินตนาการของเราเอง)......." เราก็ตามคำเพิ่มเติมอย่างสนุกสนาน เราลุ่มหลงไปกับการวิพากษ์วิจารณ์โดยที่ตัวเราเองไม่ค่อยรู้ตัว แม้กระทั่งเรื่องเล็กๆน้อยๆไปจนถึงเรื่องใหญ่โตที่เป็นเรื่องชีวิตของผู้อื่นเราก็มักวิพากษ์วิจารณ์แล้วก็ใส่ความรู้สึกโดยที่เรา ไม่เข้าใจในสถานการณ์จริงๆ และยิ่งในโลกออนไลน์ที่เราสามารถที่จะวิพากษ์วิจารณ์หรือแสดงความเห็นแบบอิสระได้มันทำให้เรามีช่องในการที่จะเสนอความคิดของตัวเองลงไปนั่นเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดวจีกรรมขึ้น ก็เป็นได้


เขียนถึงตรงนี้ทำให้ฉันนึกถึงเรื่องราวที่น่าสนใจเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ ในเย็นวันหนึ่งฉันกับครอบครัวไปนั่งกันที่สวนสาธารณะในจังหวัดชลบุรี ในวันที่เราไปเป็นวันทำงาน ผู้คนก็เลยไม่เยอะมาก พวกเราไปนั่งกันตั้งแต่ ช่วงบ่าย ฉันกำลังอ่านและเขียนหนังสืออยู่ลำพัง ในขณะที่ลูกสาวอายุ 4 ขวบและสามีไปเล่นกันในสนามเด็กเล่น พอเล่นกันได้สักครู่หนึ่งฉันก็เลยชวนสองคนพ่อลูกไปนั่งดูทะเลกัน เราจึงย้ายสถานที่นั่งจากสนามเด็กเล่นไปที่โขดหินริมทะเลแทน และในบริเวณนั้นไม่มีชายหาดมีแต่เพียงก้อนหินขนาดต่างๆใหญ่บ้างเล็กบ้าง พวกเราเลยเลือกก้อนหินที่พวกเราสามคนสามารถจุ่มเท้าลงในน้ำแล้วก็นั่งดูทะเล ดูเรือประมง นั่งดูสายน้ำไปเรื่อยๆ จนเวลาพอสมควรในระหว่างที่เรานั่งคุยกันอยู่นั้น ลูกสาวของฉันก็เล่นน้ำที่ท่วมก้อนหินอยู่ก้อนหนึ่งและฉันก็สังเกตุอย่างความผิดปกติของระดับน้ำว่ามันจะค่อยๆเพิ่มขึ้นทีละนิด ๆ ฉันคิดตามประสบการณ์อันมีน้อยนิดของฉันว่าช่วงนี้คงเป็นช่วงน้ำขึ้นแน่ๆ และก็มองเห็นความผิดปกติที่โขดหินคือหินทุกก้อนจะมีหอยสีดำดำตัวจิ๋วๆ ค่อยๆคืบคลานขึ้นมา เปลือกสีดำสนิทเมื่อกระทบกับแสงพระอาทิตย์ยามเย็นเป็นภาพที่สวยงามมากๆ พวกมันค่อยๆคืบคลานอย่างจะช้าและมั่นคง ฉันคิดว่ามันกำลังหนีน้ำและเอาตัวรอดตามธรรมชาติแน่ๆ พลางนั่งจ้องมองพวกมันเป็นเวลานานมาก เห็นว่ามีหอยหลายกลุ่มที่จะเลือกก้อนหินที่มีความสูงต่างๆกัน   ฉันเห็นว่าบางกลุ่มเลือกก้อนหินขนาดมหึมาฉันคิดแทนพวกมันว่า "หอยกลุ่มนี้ฉลาดแฮ่ะพวกมันน่าจะรอดจากปรากฏการณ์น้ำขึ้นนี้ได้แน่ๆมันคงใช้ความพยายามมากขึ้นสักหน่อยในการเลือกขึ้นที่สูง แม้น้ำขึ้นสูงแค่ไหนพวกมันก็รอดแน่ๆเพราะมันปีนห่างจากสันคลื่นที่ซัดสัก 3-4 คืบ"    บางกลุ่มเลือกหินขนาดกลางๆฉันคิดแทนพวกมันว่า "หอยกลุ่มที่2 นี้มันฉลาดกว่ากลุ่มแรกเพราะไม่ต้องปีนขึ้นผ่านก้อนหินที่สูงเกินความจำเป็น แต่พวกมันก็ต้องรอดจากความสูงต่อเนื่องของน้ำขึ้นได้อยู่แล้วเพราะในขณะที่ฉันมองอยู่นี้ พวกมันห่างจากสันคลื่นที่สูงที่สุดประมาณ 1-2 คืบ"     บางกลุ่มเลือกก้อนหินที่เตี้ยมากๆ แล้วฉันก็คิดไปว่า "พวกมันคงจะต้องจมน้ำตายในไม่ช้าแน่ๆ"       คุณรู้ไหมในระหว่างที่ฉันกำลังคิดต่างๆนานาว่าหอยกลุ่มไหนบ้างจะรอดกลุ่มไหนบ้างที่จะไม่รอดแต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับหอยพวกนั้นก็คือพวกมันก็ปีนขึ้นไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันอยู่ตรงนั้น บางจังหวะฉันก็รู้สึกแอบเสียวใส้ ว่าหอยเหล่านั้นว่ามันจะตายไหมยิ่งโดยเฉพาะหอยที่เลือกก้อนหินที่ขนาดเตี้ยๆ       เมื่อระดับน้ำลดลงคุณเชื่อมั้ยว่าหอยทุกตัวที่ฉันเห็นเมื่อครั้งแรกก็ปีนลงมาต่ำเหมือนเดิมและไม่มีหอยที่ไหนจมน้ำตายทั้งนั้น "สรุปว่า หอยทุกตัวรอดหมด"

เพราะระดับน้ำในช่วงนั้นคือเมื่อขึ้นแล้วจึงจุดหนึ่งน้ำก็จะลงแบบอัตโนมัติ จนมาถึงตรงนั้นเองฉันก็จะหนักรู้ว่า อ้อนี้ฉันเองเอาความคิดของตัวเองไปตัดสินหอยจำนวนเป็นหมื่นหมื่นตัวฉันเอาความเป็นมนุษย์ไปใส่ในหอย ซึ่งหอยเหล่านั้นก็ทำตามสัญชาตญาณของมัน คือแค่มันปีนขึ้นไปเท่านั้น ไม่ว่ามันจะเกาะที่หินก้อนไหนก็ตามพวกมันรู้ว่าก้อนหินก้อนไหนมันจะหนีน้ำพ้น เพราะนั่นคือชีวิตของมันและฉันเอามุมมองที่ฉันมีไปตัดสินหรือสรุปเสร็จสรรพว่าต้องเป็นอย่างนั้นต้องเป็นอย่างนี้ โดยเอาความเป็นมนุษย์ไปคิดแทนพวกมัน ฉันนั่งยิ้มแล้วหัวเราะว่าหอยสอนฉันว่าฉันไม่ควรใช้ความคิดและมุมมองตัวเองไปตัดสินใคร หรืออะไรทั้งนั้น เพราะแม้ตัวเราเอง บางครั้งก็หาเหตุผลของสิ่งที่เราทำไม่ได้เลย จริงมั้ย?


ทรงรัตน์ บานเย็น

 
 
 

Recent Posts

See All
การปล่อยปลา

"การปล่อยปลาหรือสัตว์น้ำเพื่อสร้างบุญกุศล และเสริมดวงชะตาตามความเชื่อนั้น ไม่จำเป็นว่าเราจะต้องปล่อยที่วัดเพียงอย่างเดียว...

 
 
 

Comments


© 2023 by The Artifact. Proudly created with Wix.com

bottom of page